ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการทำอุตสาหกรรมของโรงงานขนาดเล็กให้ยั่งยืน

แนวทางปฏิบัติของโรงงานขนาดเล็ก ในการเป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน

โรงงานขนาดเล็ก

จากข้อมูลของ Waste Account. IN, 2020 พบว่าการสกัดและบำบัดทรัพยากรโดยภาคอุตสาหกรรม มีการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า 90% และ กิจกรรมทางอุตสาหกรรมยังก่อให้เกิดขยะถึง 41 ล้านตัน! ซึ่งนอกจากข้อมูลดังกล่าวแล้วก็ยังมีจากอีกหลายสถาบันเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่ระบุถึงความเสียหายของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดจากกระบวนการจากอุตสาหกรรม โรงงานขนาดเล็ก และใหญ่ ทำให้จึงมีนโยบายมากมายที่ได้ส่งเสริมแผนและกลยุทธ์เพื่อการปรับปรุงให้อุตสาหกรรมไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม

และแน่นอนว่า การดำเนินธุรกิจและอุตสาหกรรมตามแนวทางที่ยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องการเพิ่มต้นทุนทางธุรกิจจากการเพิ่มกระบวนการบางอย่างในการขั้นตอนการผลิตแล้ว อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เครื่องจักรที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยลงอีกด้วย แต่ถึงกระนั้นในระยะยาวก็ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจอยู่ดี เพราะทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้นี้ ผู้บริโภคต่างๆ ทั่วโลกจะเริ่มตะหนักและปรับพฤติกรรมการเลือกบริโภคสิ่งของอุปโภคบริโภคที่มาจากการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ฉะนั้น การทำธุรกิจและอุตสาหกรรมภายใต้แนวคิดที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการปรับตัวต่อธุรกิจในปัจจุบันกันมากขึ้น เช่น การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะภาคอุตสาหกรรมทั้ง โรงงานขนาดเล็ก หรือโรงงานขนาดใหญ่ทั่วโลก มีส่วนเกี่ยวข้องในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเริ่มหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนอย่าง พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมหรือพลังน้ำ เพราะนอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาวได้ด้วย อีกทั้งผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ยังไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย

องค์ประกอบสำคัญของการอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนของ โรงงานขนาดเล็ก

  • ใช้พลังงานหมุนเวียน : เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลมและพลังน้ำสามารถช่วยให้ผู้ผลิตลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมาก

  • ใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ : ผู้ผลิตสามารถลดการพึ่งพาวัสดุที่ไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ โดยการหันมาใช้การใช้วัตถุดิบรีไซเคิลในกระบวนการผลิต หรือการใช้กระดาษรีไซเคิล เป็นต้น

  • มีการใช้แนวปฏิบัติในการประหยัดพลังงาน : เช่น การปิดอุปกรณ์เมื่อไม่ได้ใช้งาน การลดเวลาว่างในกระบวนการผลิต และการใช้แสงธรรมชาติสามารถช่วยลดการใช้พลังงานและลดต้นทุนด้านพลังงาน เป็นต้น

  • มีการให้ความรู้แก่พนักงานใน โรงงานขนาดเล็ก : การให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับความสำคัญของการรีไซเคิลและการลดของเสียสามารถช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืนภายในองค์กรได้ ซึ่งอาจรวมถึงการฝึกอบรมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการรีไซเคิล การสนับสนุนให้พนักงานรีไซเคิลในที่ทำงาน และดำเนินโครงการจูงใจเพื่อให้รางวัลแก่พนักงานสำหรับแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน

แนวทางปฏิบัติของการอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนของโรงงานขนาดเล็กและใหญ่

  1. ดำเนินการตรวจสอบการใช้พลังงานในโรงงาน : การตรวจสอบพลังงานสามารถช่วยให้ผู้ผลิตทราบได้ว่า มีส่วนงานหรือกระบวนการใดในโรงงานของคุณที่ใช้พลังงานมากเกินไปหรือมีการใช้พลังงานให้หมดไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ จากนั้นอาจจะดำเนินการร่างกฎหรือนโยบายขององค์กรได้ ดังนี้

    • การลงทุนในเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน : โดยการการอัพเกรดเป็นอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานมากขึ้นในโรงงานของคุณ เช่น การติดตั้งไฟ LED, การอัพเกรดระบบ HVAC และการลงทุนในมอเตอร์และไดรฟ์ที่ประหยัดพลังงาน เป็นต้น

    • การเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน : เช่น การติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ที่แม้ในช่วงแรกจะต้องลงทุนค่อนข้างสูง แต่ในระยะยาวนั้นสามารถช่วยให้ โรงงานขนาดเล็ก ของคุณประหยัดต้นทุนของค่าไฟฟ้าหรือน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ที่ต่ำลง

    • การใช้เทคโนโลยี IoT หรือเซ็นเซอร์อัจฉริยะเพื่อช่วยควบคุมการใช้พลังงานทั้งในโรงงานผลิตและสำนักงาน : เช่น ระบบปรับอากาศอัจฉริยะ เซ็นเซอร์ตรวจจับการเข้าใช้ หรือแสงสว่างที่ควบคุมโดยเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และอื่นๆ อีกมากมาย

  2. การลดมลภาวะที่เป็นพิษ : การลดมลพิษเป็นขั้นตอนสำคัญในการบรรลุแนวทางปฏิบัติด้านการผลิตที่ยั่งยืนได้มากขึ้น เพราะหลายประเทศทั่วโลกมองเห็นความสำคัญของการลดขยะและมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้แนวทางปฏิบัติในการป้องกันมลพิษ ได้แก่

    • ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติในการป้องกันมลพิษ : โดยมุ่งเน้นไปที่การลดหรือขจัดการสร้างมลพิษที่แหล่งกำเนิด ซึ่งอาจรวมถึงการนำแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการสารเคมีไปใช้ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    • การลดปริมาณสารเคมีและวัสดุที่เป็นอันตรายที่ใช้ในกระบวนการผลิต : ซึ่งอาจรวมถึงการใช้วัสดุที่ไม่เป็นพิษ การใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ และการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน

    • ดำเนินมาตรการควบคุมมลพิษ : โดยมุ่งเน้นไปที่การจับและบำบัดมลพิษก่อนที่จะปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้อุปกรณ์ควบคุมมลพิษทางอากาศ ระบบบำบัดน้ำเสีย และแนวทางปฏิบัติในการจัดการของเสียเพื่อดักจับและบำบัดมลพิษ เป็นต้น

  3. รณรงค์เรื่องการรีไซเคิล : การรีไซเคิลเป็นขั้นตอนสำคัญในการบรรลุแนวทางปฏิบัติด้านการผลิตที่ยั่งยืนมากขึ้น เพราะมีพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ไม่เคยถูกนำมาใช้ซ้ำจำนวนมาก การที่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ หันมาการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ เช่น การใช้กระดาษ หรือการเลือกวิธีการรีไซเคิลให้เข้ากับการดำเนินงานใน โรงงานขนาดเล็ก ของคุณ เช่น

    • การออกแบบผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตเพื่อให้สามารถรีไซเคิลหรือนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างง่ายดาย
    • การออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับการถอดชิ้นส่วน เพื่อนำส่วนที่สามารถรีไซเคิลไปเข้ากระบวนการนำไปใช้หรือผลิตซ้ำได้อย่างถูกวิธี
    • การจัดทำโครงการรีไซเคิลหรือการแยกขยะตามประเภทในโรงงานของคุณ
    • ร่วมมือกับซัพพลายเออร์เพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลและลดของเสีย
    • ลดการผลิตของเสีย เช่น การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต, การจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด เป็นต้น

  4. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในโรงงานขนาดเล็ก ของคุณด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย : ช่น การใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ เช่น MES (Manufacturing Execution System) ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทางอุตสาหกรรมผ่านการควบคุมแบบรวมศูนย์ ด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ข้อมูลที่จำเป็นจะถูกดึงออกมาเพื่อทราบสถานะการผลิตแบบเรียลไทม์ คาดการณ์เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น การหยุดทำงานหรือการสูญเสีย และปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์ (OEE) เป็นต้น

  5. ส่งเสริมการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมในโรงงานขนาดเล็ก ของคุณ : การดำเนินการเพื่อให้อุตสาหกรรมของคุณดำเนินไปด้วยนโยบายและหลักการของความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม จะต้องส่งเสริมด้วยความเข้าใจและมีความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับพฤติกรรมและการเป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน การฝึกอบรมและการสร้างความตระหนักรู้ในส่วนของพนักงานในองค์กรหรือโรงงานของคุณ จะช่วยให้พนักงานในองค์กรมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้อุตสาหกรรมสามารถปรับตัวเข้ากับธุรกิจยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้นอย่างยั่งยื่นได้ นั่นเอง

  6. ร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม : ผู้ประกอบการหรือเจ้าของ โรงงานขนาดเล็ก สามารถร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมแนวทางปฏิบัติด้านการผลิตที่ยั่งยืนได้ เช่น กรมควบคุมมลพิษ, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ หรือกองพัฒนาระบบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (กพส.) ฯลฯ เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการเข้าร่วมในโครงการที่ส่งเสริมแนวทางปฏิบัติด้านการผลิตที่ยั่งยืน เป็นต้น

 

นี่คือองค์ประกอบและปัจจัยสำคัญในการปรับเปลี่ยนโรงงานขนาดเล็ก ของคุณให้เป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นโอกาสให้สอดรับกับการตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค ที่กำลังผลักดันให้ผู้ผลิตนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมาสู่ผู้บริโภคมากขึ้น เพราะการใช้แนวทางปฏิบัติด้านการผลิตที่ยั่งยืนไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มชื่อเสียงขององค์กรและช่วยดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานของคุณได้อีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาโรงงาน โกดังหรือคลังสินค้า ที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม โครงการ ไพร์ม เอสเตท ของเรามีพื้นที่สีเขียวให้กับฐานผลิตแห่งใหม่ของคุณ อีกทั้งยังอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่เป็นพื้นที่โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เรามี โรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า หรือโกดังพร้อมที่ดิน ให้คุณเลือกตามความเหมาะสมของธุรกิจคุณ และตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญระหว่างกรุงเทพมหานครและ EEC ที่สามารถขนส่งได้หลากหลายช่องทาง เพื่อความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกได้เป็นอย่างดี

 

สนใจดูรายละเอียดโครงการ โรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า, โกดังพร้อมที่ดินทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์: www.primeestate.co.th
โทร : 063 663 6663
Facebook Inbox : m.me/PrimeEstateSME
Line: line.me/R/ti/p/@primeestate
Email : Sales@primeestate.co.th