พลิกโฉมเทคโนโลยีคลังสินค้า Smart Warehouse ยกระดับให้กับธุรกิจ

 การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และคลังสินค้าให้ธุรกิจ

คลังสินค้า

ไม่ว่าจะทำธุรกิจหรือค้าขายอะไรบนโลกออนไลน์ ย่อมต้องอำนวยความสะดวกสบายและความรวดเร็วว่องไวให้ลูกค้า นั่นเป็นเพราะผู้คนยุคนี้คาดหวังความรวดเร็วว่องไว สะดวกสบายและถูกต้องแม่นยำ ฉะนั้นการทำธุรกิจไม่ว่าจะแบบ B2B หรือ B2C นั้นจะต้องพัฒนาทั้งระบบการทำงานและเทคโนโลยีต่างๆ ในธุรกิจให้ขับเคลื่อนได้ไวเท่ากับความต้องการของผู้บริโภค ไม่เว้นแม้กระทั้งการจัดการ คลังสินค้า

เมื่อธุรกิจทั้ง SME ขนาดเล็กหรือใหญ่ที่นอกจากจะซื้อโรงงานไว้ขยายฐานการผลิตแล้ว จากบริษัทที่ ขายโรงงานขนาดเล็ก มาแล้ว ก็อย่าลืมระบบที่สำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้การเก็บสินค้าต่างๆ เป็นระเบียบถูกต้องและง่ายต่อการหยิบมาแพ็คบรรจุเตรียมส่งมอบแกลูกค้า ไม่แพ้กันก็คือระบบของ คลังสินค้า โดยเทรนด์ของสุดล้ำของยุคนี้ที่จะมาช่วยยกระดับเทคโนโลยีของโรงงานอุตสาหกรรมของธุรกิจคุณได้ก็คือ Smart Warehouse

Smart Warehouse คืออะไร?

แปลได้ตรงตัวก็หมายความว่า “คลังสินค้าอัจฉริยะ” และหากจะให้อธิบายคำว่าอัจฉริยะอย่างลึกซึ้งได้ก็คือ การวางระบบการปฏิบัติงานในคลังสินค้า ให้มีการควบคุมการจัดเก็บสินค้าและเคลื่อนย้ายสินค้า ลดขั้นตอนและความซับซ้อนของการทำงาน เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ง่ายมากขึ้นและที่สำคัญคือต้องช่วยลดโอกาสการเกิดข้อผิดพลาดต่างๆ ได้มากขึ้น นำไปสู่เป้าหมายการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้กับคลังสินค้าของธุรกิจต่างๆ เพื่อเพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ นั่นเอง

Smart Warehouse มีความสำคัญต่อหลายธุรกิจอย่างไร?

แม้ว่าการซื้อ ขายโรงงานขนาดเล็ก หรือการซื้อ ขายคลังสินค้า เพื่อขยายฐานการผลิตให้สอดคล้องและทันท่วงทีต่อความต้องการของผู้บริโภคได้แล้ว การนำส่งสินค้าที่รวดเร็วและถูกต้องแม่นยำก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ดังเช่นในหลายประเทศที่มีความเจริญของเทคโนโลยีอันดับต้นๆ ของโลก อย่างประเทศจีนและสหรัฐอเมริกา ที่มีการนำระบบคลังสินค้าอัจฉริยะเข้ามาใช้ในธุรกิจค้าขายออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ของอเมริกาและ Alibaba ของจีนที่มีหุ่นยนต์ทำงานอยู่ 70% ในโรงงาน หรือมีการใ้ช้โดรนส่งสินค้าเพื่อความรวดเร็ว ลดจำนวนการทำงานของคน ลดค่าใช้จ่ายของน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์สำหรับขนส่ง และหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดที่อาจจะทำให้การส่งสินค้าล่าช้าได้ ฉะนั้นการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และคลังสินค้าให้ธุรกิจของคุณร่วมด้วย จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน

มีระบบอะไรบ้าง? ที่จะยกช่วยระดับคลังสินค้าของคุณให้กลายเป็น Smart Warehouse

ระบบ WMS (Warehouse Management System) : เป็นระบบที่สร้างขึ้นมาเพื่อการจัดการคลังสินค้าที่ต้องเก็บสินค้าจำนวนมาก เพื่อนำมาใช้บันทึกข้อมูลสินค้าสำคัญๆ ในคลัง เช่น ชื่อ, จำนวน, ขนาด และตำแหน่งของสินค้า นอกจากนั้นยังใช้จัดทำฉลากสินค้าอัตโนมัติ, จัดแยกสินค้าแต่ละประเภท รวมถึงการคำนวณการขนย้ายสินค้าต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งระบบ WMS นี้เป็นระบบที่คลังสินค้าหลายแห่งทั่วโลกนิยมใช้กัน เพราะเป็นระบบที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่เดียว

และเพื่อให้การทำงานในคลังสินค้ามีประสิทธิภาพสูงสุด ระบบWarehouse Management System (WMS) จะมักใช้คู่กับระบบ Order Management System (OMS) ซึ่งก็คือระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยติดตามจำนวนการขาย ใบสั่ง สินค้าคงคลัง และการเติมสินค้าโดยอัตโนมัติ โดยระบบ OMS จะเชื่อมต่อข้อมูลของสินค้าในคลังเข้ากับข้อมูลคำสั่งซื้อจากช่องทางขายต่างๆ แบบ Real Time ช่วยให้การทำงานตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางคือ ทั้งการซื้อขาย การจัดเตรียมสินค้าและการจัดส่งสามารถทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ : ที่นำเทคโนโลยีของ IoT หรือ Internet of Things เข้ามาใช้งานคือ การฝังเซ็นเซอร์ไว้ที่ตัวสินค้า หรือเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อทำให้ระบบการจัดการคลังสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือสามารถตามติดและตรวจสอบข้อมูลสินค้าผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา

ระบบจัดการคลังสินค้าด้วยบาร์โค้ดหรือ RFID : นับเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบคลังสินค้าอัจฉริยะอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะมีความสำคัญอย่างมากกับระบบสต๊อกสินค้า โดยบาร์โค้ดที่ติดไว้ที่ตัวสินค้านั้นจะช่วยให้ง่ายต่อการค้นหาและการหยิบสินค้า อีกทั้งยังช่วยลดความพลาดในการหยิบสินค้าได้อีกด้วย

แต่ด้วยความล้ำสมัยของเทคโนโลยีที่มีมากขึ้น จึงพัฒนาเป็นระบบ RFID หรือ Radio frequency identification ที่เราคาดการณ์ว่าปี 2023 ระบบนี้จะเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเพื่อมาทดแทนระบบบาร์โค้ด เพราะช่วยลดการใช้กระดาษสติกเกอร์แปะของระบบบาร์โค้ด เปลี่ยนเป็นระบบแท็คไร้สายของ RFID แทน โดยระบบนี้ใช้คลื่นความถี่วิทยุมาช่วยในการอ่านรหัสและข้อมูลของสินค้าหรือข้อมูลของฉลากได้โดยไม่ต้องมีการสัมผัส โดย RFID จะสามารถอ่านข้อมูลได้รวดเร็ว ด้วยความเร็วสูง และยังสามารถอ่านค่าของสินค้านั้นได้แม้จะอยู่ในระยะไกลได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีต้นทุนในการดูแลรักษาต่ำ อายุการใช้งานยาวนานสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้


ระบบ RFID ดีกว่าระบบบาร์โค้ดอย่างไร?

✔ แข็งแรงทนทานมากกว่าบาร์โค้ด บางครั้งทั้งสภาพอากาศหรือความสกปรกในคลังสินค้าอาจทำให้บาร์โค้ดเกิดการชำรุด ทำให้มีปัญหาในการอ่านข้อมูลนั่นเอง

✔ Tagsของระบบ RFID สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่า 100,000 ครั้ง

✔ ระบบ RFID สามารถสื่อสารได้ไกลกว่าบาร์โค้ด

✔ ระบบ RFID มีหน่วยความจำขนาดใหญ่ บรรจุข้อมูลได้มากกว่าบาร์โค้ด

✔ ระบบ RFID ต้นทุนในการดูแลรักษาต่ำ อายุการใช้งานยาวนานกว่าบาร์โค้ด


การนำเทคโนโลยี AGVs หรือหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในการเคลื่อนที่หรือขนส่งสินค้าในคลัง : ระบบ AGVs หรือ (Automated Guided Vehicle) นิยมนำมาใช้เชื่อมต่อกับระบบขนถ่ายสินค้าในคลังสินค้า เช่น สายพานใช้ระบบการนำทางด้วยเลเซอร์ และทำงานตามคำสั่งด้วยระบบคลื่นวิทยุ หรืออย่างในบริษัทค้าขายปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Amazon หรือ Alibaba ก็นำเทคโนโลยีของหุ่นยนต์อัตโนมัติเข้ามาช่วยในหลายๆ ส่วน เช่น

✔ ใช้หุ่นยนต์แทนรถโฟล์คลิฟท์

✔ ใช้หุ่นยนต์หยิบสินค้า เพื่อทนแทนแรงงานของคนด้วยการประมวลผลผ่านเซ็นเซอร์ต่างๆ ช่วยให้สามารถหยิบสินค้าได้อย่างถูกต้องและประหยัดเวลาได้อีกด้วย

✔ ใช้หุ่นยนต์สำหรับการนับสต็อก ซึ่งทำงานควบคู่ไปกับระบบ RFID โดยการสแกนแท็คของ RFID เพื่อตรวจนับสินค้าได้ หรืออย่างที่สิงคโปร์เองก็มีบริษัทโลจิสติกส์ชื่อ Yusen นำเทคโนโลยีคลังสินค้าอัตโนมัติแบบหุ่นยนต์ ที่เป็นระบบจัดเก็บและหยิบสินค้าอัตโนมัติด้วยเช่นกัน… จริงอยู่ที่การมองหาพื้นที่อย่างการหาโครงการที่ ขายโรงงานขนาดเล็ก หรือ ขายคลังสินค้า เพื่อขยายฐานการผลิตให้ได้จำนวนมากและพอเพียงกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเลือกลงทุนกับระบบ Smart Warehouse ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการทำธุรกิจในปัจจุบันนี้เช่นกัน ฉะนั้นเหล่าผู้ประกอบการและนักธุรกิจในประเทศไทย ก็ควรจะเร่งพัฒนาการทำธุรกิจให้ทันโลกทันสมัย และที่สำคัญคือทันต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันด้วย นั่นเอง

และหากคุณกำลังมองหาที่ดินทำเลทองสำหรับการขยายฐานการผลิตของธุรกิจคุณ โครงการไพร์ม เอสเตท มีบริการ ขายโรงงานขนาดเล็ก, ขายคลังสินค้า หรือขายโกดังพร้อมที่ดิน บนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญระหว่างกรุงเทพมหานครและโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ง่ายต่อการขนส่งสินค้าเข้า-ออก เส้นทางคมนาคมต้องหลากหลายและสะดวกสบาย พร้อมโรงงานและคลังสินค้าหลายขนาดตั้งแต่ 400 - 1000 ตร.ม. ให้คุณได้เลือกให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจของคุณได้

 

สนใจดูรายละเอียดโครงการ โรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า, โกดังพร้อมที่ดินทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์: www.primeestate.co.th
โทร : 063 663 6663
Facebook Inbox : m.me/PrimeEstateSME
Line: line.me/R/ti/p/@primeestate
Email : Sales@primeestate.co.th