ความท้าทายของอุตสาหกรรมและ โรงงานขนาดเล็ก ในปี 2567

อุตสาหกรรมและ โรงงานขนาดเล็ก ควรปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในอนาคต

 

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น โรงงานขนาดเล็ก หรือใหญ่นั้นมีสำคัญในเศรษฐกิจโลก เพราะนอกจากจะเป็นฐานของการนำเข้าส่งออกที่สำคัญแล้ว ยังมีหน้าที่สำคัญในการสร้างรายได้และการจ้างงานให้กับประเทศ แต่อย่างที่เรารู้กันว่าในปีนี้ (รวมถึงปีหน้า) เราต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกที่คาดว่าจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตรงกันข้ามกับภาวะเศรษฐกิจขาลงก็คือการเติบโตและการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ไม่หยุดยั้ง ทำให้เหล่าธุรกิจอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น โรงงานขนาดเล็ก และใหญ่ไม่อาจจะละเลยและนิ่งเฉยไปได้ เพราะเทรนด์อุตสาหกรรมของโลกและแนวโน้มธุรกิจในอนาคตอันใกล้นั้นถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ (AI) เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน และในปี 2567 นี้เหล่าเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการต่างๆ จำเป็นจะต้องอัพเดทข้อมูลเหล่านี้ไว้เพื่อนำไปปรับใช้ในอุตสาหกรรมของตนเอง 

เทคโนโลยีที่สำคัญในปี 2567 ของอุตสาหกรรมที่ โรงงานขนาดเล็ก และใหญ่จำเป็นต้องรู้

ในบทความของ Forbes.com ได้เผยถึงเทรนด์ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 2024 ที่ทุกคนต้องพร้อมในขณะนี้ ซึ่งเราจะขอหยิบยกบางส่วนที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีในอนาคตไว้ไว้ดังนี้

  • Generative AI Everywhere : Boston Consulting Group (BCG) เป็นบริษัทที่ให้บริการที่มีชื่อเสียงในด้านการให้คำปรึกษาทางธุรกิจและกลยุทธ์ ที่มีสำนักงานทั่วโลกและได้รับการยกย่องว่าเป็นธุรกิจที่ทรงพลังและถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของบริษัทที่ให้บริการที่มีชื่อเสียงในวงการการค้นคว้าและการจัดการทางธุรกิจ ได้ยืนยันว่า “ในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมภายใน 5 ปี คุณต้องมีกลยุทธ์ AI เจนเนอเรชั่นที่ชัดเจนและน่าสนใจในปัจจุบัน” เพราะ AI และ Machine Learning จะถูกบูรณาการเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เพื่อสร้างกระแสมานานกว่าทศวรรษ และบูรณาการเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างและทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าดีมากขึ้น ดังนั้น ในภาคการผลิตจาก โรงงานขนาดเล็ก และใหญ่จึงต้องพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่มีส่วนของ AI และ Machine Learning เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตสิ่งของเครื่องใช้และผลิตภัณฑ์ต่างๆ

  • Sustainable Business : เพราะสภาวะของสิ่งแวดล้อมทั่วโลกกำลังจะแย่ลงเรื่อยๆ ผู้คนจึงเริ่มใส่ใจเรื่องการใช้ชีวิตอย่างไรให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้เหล่าเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ทั่วโลกต่างปรับตัวให้เข้ากับกระแสนี้ เช่น Walmart ลดการใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและการบำรุงรักษายานพาหนะลงอย่างมากโดยการเปลี่ยนไปใช้กลุ่มจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

  • The Data Economy : อย่างที่ทราบกันดีว่าเรื่องของการใช้ Data ในการตัดสินใจเพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้มีการเติบโตมากขึ้น และในปี 2567 นั้นคุณจะได้เห็นบริษัทต่างๆ จำนวนมากหันมาใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์กับการขับเคลื่อนส่วนต่างๆ ในธุรกิจด้วย Data กันมากขึ้น

  • Remote and distributed work : อธิบายง่ายๆ ก็คือการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนของโลกก็ตาม ซึ่งอิทธิพลสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการทำงานในรูปแบบนี้คือโรคระบาดอย่าง Covid 19 ที่บังคับให้เราต้องเรียนรู้การทำงานหรือการประชุมที่ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศแบบเดิมๆ ฉะนั้น เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาเพื่อให้การทำงานของคุณสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ก็จะเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ให้คุณได้เห็น นั่นเอง 

การคาดการณ์ความท้าทายของอุตสาหกรรมและ โรงงานขนาดเล็ก ที่อาจเผชิญในปี 2567 มีดังนี้

  • ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ : ไม่ว่าจะเป็นภาวะของสงครามหรือผลกระทบต่อเนื่องจากโรคระบาดที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกมีผลกระทบเป็นอย่างมาก อาทิอัตราเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ย และเหตุการณ์จากสงครามต่างๆ ล้วนสร้างความไม่แน่นอนให้เศรษฐกิจทำให้ห่วงโซ่อุปทานต่างๆ ของธุรกิจเกิดการหยุดชะงัก และอุตสาหกรรมขนาดเล็กอาจยังคงต่อสู้กับความท้าทายในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งส่งผลต่อความพร้อมของวัตถุดิบและการส่งมอบผลิตภัณฑ์ได้ทันเวลา

  • การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว : อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า แม้แนวโน้มเศรษฐกิจจะมีที่ท่าจะแย่ลงเรื่อยๆ แต่การพัฒนาของเทคโลโนยีนั้นก็นังก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ฉะนั้น อุตสาหกรรมและ โรงงานขนาดเล็ก ที่อาจไม่ใช่เรื่องง่ายในการตัดสินใจลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้ ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตของตนเองเกิดความล้าหลังไม่ทันความต้องการของผู้บริโภคได้ และอีกความท้าทายหนึ่งของเหล่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ ก็คือ การหาบุคคลากรที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การใช้ระบบ IoT, AI และการเชื่อมต่อในรูปแบบอื่นๆด้วย นั่นเอง

  • ความสามารถในการแข่งขันกับกลุ่มบริษัทและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ : โรงงานขนาดเล็ก ต้องเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งทั้งทางด้านการต่อรองการค้า, ความสามารถในการผลิต, เงินทุน, ทรัพยากรทางเทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญมากมายที่บริษัทหรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีศักยภาพมากกว่าตนเอง แม้มันจะเป็นสิ่งที่เป็นมาอยู่แล้วในอดีตแต่ปีหน้าเรารับรองว่าการแข่งขันในเกมนี้จะยิ่งดุเดือดมากขึ้นอย่างแน่นอน

ฉะนั้นการแก้ปัญหานี้ก็คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ภาวะเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย และการเปลี่ยนแปลงของตลาดและการแข่งขันกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งตัวแปรสำคัญที่จะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ได้ก็คือนโยบายของรัฐบาล ที่จะเข้ามาช่วยเหล่าอุตสาหกรรมและ โรงงานขนาดเล็ก ที่จะมีความสามารถที่จะเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ได้นั่นเอง

สิ่งที่อุตสาหกรรมขนาดเล็กหรือ SME ควรปรับตัวในปี 2567 มีอะไรบ้าง?

  • อุตสาหกรรมขนาดเล็กต้องพยายามเข้าร่วมในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์และบริการ

  • การนำเทคโนโลยีเข้ามาในการผลิตและการบริการ สามารถเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มประสิทธิภาพและความแข็งแกร่ง

  • การจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้มีทักษะและความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ จะทำให้ โรงงานขนาดเล็ก สามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ ได้ดีมากขึ้น

  • การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งทำให้ธุรกิจมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงคือมีจุดแข็งแรงและจุดขายที่ชัดเจน ทำให้การสร้างแบรนด์และตลาดเป็นไปได้ง่ายและมีความเป็นอัตลักษณ์ของของธุรกิจที่ชัดเจน

  • การสร้างพาร์ทเนอร์และเครือข่ายทางธุรกิจ เพราะจะสามารถช่วยเพิ่มทรัพยากรและโอกาสในการขยายธุรกิจได้เป็นอย่างดี รวมถึงการแลกเปลี่ยนกันในระหว่างเครือข่ายธุรกิจจะช่วยให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในองค์กรของคุณให้มีความสามารถที่มากขึ้นได้อีกด้วย

  • การใช้ Data ในการตัดสินใจทางธุรกิจ เพราะอุตสาหกรรมและ โรงงานขนาดเล็ก มีเงินทุนที่จะใช้ในการทำธุรกิจไม่มากเท่ากับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ฉะนั้น การตัดสินใจทำอะไรในธุรกิจจึงต้องมีความละเอียดรอบคอบ ซึ่งการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจทางธุรกิจ จะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้นและสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากขึ้น ก็จะเป็นการส่งเสริมให้ธุรกิจคุณมียอดขายและกำไรมากขึ้น นั่นเอง

  • การปรับตัวให้ธุรกิจของคุณมีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เพราะความคาดหวังของผู้บริโภคเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมกำลังเพิ่มขึ้น ถือเป็นโอกาสให้อุตสาหกรรมและ โรงงานขนาดเล็ก เริ่มปรับตัวในการนำแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นในอุตสาหกรรมของคุณ

 

ทั้งหมดนี้คือความท้าทายของอุตสาหกรรมขนาดเล็กในปี 2567 ซึ่งมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกมากมายที่เปลี่ยนแปลงไปในอนาคต การปรับตัวของเหล่าอุตสาหกรรมและ โรงงานขนาดเล็ก ตามสิ่งที่เราได้นำเสนอไปถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณต่อสู้กับความท้าทายรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีหรือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน


หากคุณต้องการขยายฐานการผลิตและกำลังมองหาโรงงาน โกดังหรือคลังสินค้าที่ อยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่เป็นพื้นที่โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) โครงการ ไพร์ม เอสเตท เราขายโรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า หรือโกดังพร้อมที่ดินหลายขนาด ให้คุณเลือกตามความเหมาะสมของธุรกิจคุณ และตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญระหว่างกรุงเทพมหานครและ EEC ที่สามารถขนส่งได้หลากหลายช่องทาง เพื่อความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกได้เป็นอย่างดี


 

สนใจดูรายละเอียดโครงการ โรงงานขนาดเล็ก, คลังสินค้า, โกดังพร้อมที่ดินทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์: www.primeestate.co.th
โทร : 063 663 6663
Facebook Inbox : m.me/PrimeEstateSME
Line: line.me/R/ti/p/@primeestate
Email : Sales@primeestate.co.th